วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 — ประเทศไทยเผชิญกับเหตุการณ์ระบบสื่อสารขัดข้องครั้งใหญ่ เมื่อเครือข่ายของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ล่มทั่วประเทศ ต่อเนื่องยาวนานกว่า 5–10 ชั่วโมง ส่งผลให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ตบ้าน แอปการเงิน และบริการออนไลน์ต่าง ๆ ได้ สร้างความเสียหายและความไม่พอใจในวงกว้าง
ทรูแจง “ระบบไฟฟ้าขัดข้อง” ต้นตอระบบล่ม
ทรูออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ปัญหาเกิดจาก “ระบบไฟฟ้าขัดข้องที่ศูนย์โครงข่ายหลัก (Core Network)” ซึ่งเป็นศูนย์กลางการให้บริการ ทำให้จำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและแก้ไข ทีมวิศวกรได้ดำเนินการโอนย้ายลูกค้าไปยังศูนย์โครงข่ายสำรองเพื่อบรรเทาผลกระทบ
เสียงโวยพุ่งใส่มาตรการเยียวยา
มาตรการเยียวยาระยะแรกของทรู — มอบดาต้า 10 GB และโทรฟรี 100 นาที 1 วัน — ถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะจากผู้ใช้งานแพ็กเกจแบบไม่จำกัดที่เห็นว่าชดเชยไม่คุ้มค่าความเสียหาย สำนักงาน กสทช. ต้องเรียกทรูเข้าหารือ และล่าสุดบริษัทได้ขยายสิทธิเป็น “โทรฟรี + ดาต้า 3 วัน” สำหรับลูกค้าเติมเงิน และ “ลดค่าบริการ 1 วัน” สำหรับรายเดือน มีผล 15 มิ.ย. 2568
สภาผู้บริโภคชี้ “ระบบสื่อสารล่มทั้งประเทศ” คือความเสี่ยงระดับชาติ
นางสาวจุฑา สังขชาติ อนุกรรมการด้านการสื่อสารฯ สภาองค์กรของผู้บริโภค ตั้งข้อสังเกตว่า ทรูมีฐานลูกค้ารวมกว่า 62.93 ล้านเลขหมาย หรือประมาณ 58% ของตลาดโทรคมนาคม ทำให้การล่มของระบบนี้ส่งผลคล้าย “การหยุดชะงักของระบบสื่อสารทั้งประเทศ”
เธอยังตั้งคำถามถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าอาจไม่ใช่แค่ระบบไฟฟ้า แต่รวมถึง ข้อผิดพลาดจากการอัปเกรดระบบ หรือ การถูกโจมตีไซเบอร์ ซึ่งยังไม่มีคำตอบชัดเจนจากทรูในขณะนี้
ตลาดผูกขาด-ผู้บริโภคไร้ทางเลือก
เหตุการณ์ครั้งนี้ตอกย้ำถึงปัญหา “โครงสร้างตลาดโทรคมนาคมที่ผูกขาด” โดยทรูและเอไอเอสถือครองตลาดรวมกันกว่า 98% ขณะที่ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจเหลือเพียง 1.26% หรือประมาณ 1.4 ล้านเลขหมายเท่านั้น
“ประเทศต้องมีผู้เล่นรายที่ 3 จริง ๆ ที่แข็งแรงพอจะถ่วงดุลตลาดมือถือ ไม่ใช่มีแค่ 2 เจ้าใหญ่ที่ประชาชนไม่มีทางเลือกอื่น” — จุฑา สังขชาติ
ข้อเสนอเพื่อความมั่นคงดิจิทัล
สภาผู้บริโภคเสนอแนวทางแก้ไขเชิงโครงสร้าง ได้แก่:
- ให้รัฐบาล สนับสนุน NT ให้เป็นผู้ให้บริการที่มั่นคง เป็นทางเลือกสำหรับประชาชน
- การประมูลคลื่นความถี่เดือน มิ.ย. 2568 ต้องมีเงื่อนไขเยียวยาผู้บริโภค ผูกพันทางกฎหมาย
- จัดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตกลางสำรอง (National Redundant Network) ใช้ในภาวะฉุกเฉิน
- ทบทวนมาตรการควบคุมดูแลกรณีระบบล่ม ตามประกาศ กสทช. ปี 2549 ที่ระบุว่า หากผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้งานได้ ผู้ให้บริการต้องยกเว้นค่าบริการ ไม่ใช่แค่ลดเพียง 1 วัน
บทเรียนจากเหตุการณ์นี้สะท้อนว่า ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลไม่อาจพึ่งพาผู้ให้บริการเพียงไม่กี่รายได้อีกต่อไป หากประเทศต้องการความมั่นคงทางไซเบอร์อย่างแท้จริง.